วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ราคาขายปลีก ราคาขายส่ง ฟักข้าวแคปซูล Magna Gac

                             ฟักข้าวแคปซูล
ราคาขายปลีก
     1 กล่อง                                  ขายปลีก @450 บาท
     3 กล่อง          1,200 บาท       ขายปลีก @450 บาท
     6 กล่อง          2,200 บาท       ขายปลีก @450 บาท

ราคาส่ง
    12 กล่อง             @320 บาท        ขายปลีก @450 บาท     
    36 กล่อง             @300 บาท        ขายปลีก @450 บาท     
    60 กล่อง             @290 บาท        ขายปลีก @450 บาท     
  120 กล่อง             @270 บาท        ขายปลีก @450 บาท 


    
                   สั่งซื้อที่   วีระชัย  ทองสา  โทร. 084-6822645
                                                                        085-0250423

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ทำไม? เซลล์มะเร็งจึงลดจำนวนลง หลังจากรับประทาน ฟักข้าวแคปซูล

     เมื่อรับประทาน ฟักข้าวแคปซูล ไประยะเวลาหนึ่ง จะตรวจพบว่า จำนวน “เซลล์มะเร็ง” ได้ลดจำนวนลงจริง(จากการตรวจจากแพทย์)
    สาเหตุ เนื่องจาก สารไลโคพีน ในฟักข้าว(อยู่ในฟักข้าว แคปซูล) ไปช่วยให้ จำนวน “เม็ดเลือดขาว” เพิ่มจำนวนมากขึ้น และ ทำให้เม็ดเลือดขาว แข็งแรงมากขึ้น


    จำนวนเม็ดเลือดขาวที่เพิ่มจำนวน จะไป จับ “เซลล์มะเร็ง” และทำลายเซลลืมะเร็งให้ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนสามารถตรวจพบว่า จำนวนเซลล์มะเร็งของผู้ป่วย มีจำนวนน้อย จนไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพได้อีก
   


    ผู้ป่วยโรคมะเร็ง(ทุกโรค) จะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และ เมื่อรับประทานต่อเนื่อง เซลล์มะเร็งอาจถูกทำลายไปจนหมด
     เม็ดเลือดขาวช่วยทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันคอยทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมให้แก่ร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดขาวไม่มีฮีโมโกลบินแต่มีนิวเคลียสอยู่ด้วย เซลล์เม็ดเลือดขาวมีอายุประมาณ 2-3 วัน
     เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่อะไร

     หน้าที่ของเม็ดเลือดขาวในร่างกายของมนุษย์ คือทำลายเชื้อโรค กล่าวคือเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เม็ดเลือดขาวจะถูกผลิตเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำลายสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเม็ดเลือดขาวมีวิธีทำลายเชื้อโรคได้ 2 วิธีคือ
   1. ทำลายโดยการกินและย่อยสลายเชื้อโรค หรือที่เรียกว่า การสะกดกลืนกิน (Phagocytosis)
   2. ทำลายโดยการสร้างสารพวกโปรตีนที่มีคุณสมบัติต่อต้านสารแปลกปลอมในร่างกายและเชื้อโรค หรือที่เรียกว่า สร้าง ภูมิคุ้มกันโรค (Immunization)
      เม็ดเลือดแดงกับเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงจะทำหน้าที่ขนย้ายออกชิเจน(อากาศหรือลมนั่นเอง) ไปส่งยังเชลล์ต่างๆทั่วร่างกาย โดยอาศัยหลอดเลือดเป็นเส้นทางสัญจรไปมา ภายในหลอดเลือดก็จะมีสิ่งที่จำเป็นต่อเชลล์มากมาย เช่น สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ ฮอร์โมน ไปให้เชลล์ต่างๆในร่างกาย โดยมีเม็ดเลือดขาวทหารเอก เป็นผู้ให้การคุ้มครองไปตลอดทาง เพราะนอกจากสารอาหารและสิ่งจำเป็นต่อร่างกายแล้วในเส้นทางของหลอดเลือดนี้ก็จะมีพวกเชื้อโรคและสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการผสมมาด้วย ต้องเป็นหน้าที่ของเชลล์เม็ดเลือดขาวที่จะตามกำจัดและขับไล่มันออกไปจากร่างกายเรา เหมือนตำรวจไล่จับผู้ร้าย



           ไลโคปิน เป็นสารที่ทำให้ “เม็ดเลือดขาว” แข็งแรงและเพิ่มจำนวนขึ้น มีผลการวิจัยทางการแพทย์ที่ระบุว่าเมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณของไลโคปีนในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้โอกาสในการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด  มะเร็งเต้านม และ มะเร็งปากมดลูก     
       เนื่องจากไลโคปีนเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ที่มีความแรงมาก และมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง กลไกการออกฤทธิ์ที่สำคัญคือเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระ (Free radical) ในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการทำลายสายดีเอ็นเอ อันก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ไลโคปีนจะช่วยลดการก่อกลายพันธุ์ ทำให้สามารถยับยั้งวงจรชีวิตของเซลล์มะเร็งในช่วงต้น (ระยะ G1) และลดการเกิดเนื้องอกได้
    ปัจจุบัน ไคโลปีน ที่เป็นสารสำคัญให้ เม็ดเลือดขาว มีอยู่ใน Magna Gac Capsule




    วิธีรับประทาน   รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร  และ ก่อนนอน 1 ชั่วโมง
       ปริมาณใน 1 แคปซูล :  1 แคปซูล ปริมาณ 500 มก. (มีส่วนผสมจาก ฟักข้าว 100%)
       ผลิตด้วยกรรมวิธี Freeze Dryในห้องมืด เพื่อป้องกัน ไลโคพีน สูญเสียคุณค่าไป      
     รับประทาน ฟักข้าวแคปซูล 1 แคปซูล เท่ากับรับประทาน มะเขือเทศ 3 กก.
       ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่  http://gaccapsule.blogspot.com

  ปริมาณและราคา 1 แผง มี 10 แคปซูล
   
ซื้อ 1 กล่อง     มี 3 แผง   ราคา    450 บาท 
    ซื้อ 3 กล่อง รวม 9 แผง  
ราคา 1,200 บาท
    ซื้อ 6 กล่อง รวม 18 แผง
ราคา 2,200 บาท ส่งไปรษณีย์ EMS ฟรี
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
คุณ วีระชัย ทองสา โทร. 084-6822645 , 085-0250423 
คุณ สุมาณี เที่ยงธรรม โทร. 087-171-5151
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com          

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เม็ดเลือดขาว(white blood)ที่มาจาก ไลโคปิน ใน ฟักข้าวแคปซูล

 เม็ดเลือดขาวช่วยทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันคอยทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมให้แก่ร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดขาวไม่มีฮีโมโกลบินแต่มีนิวเคลียสอยู่ด้วย เซลล์เม็ดเลือดขาวมีอายุประมาณ 2-3 วัน 
    

       เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่อะไร
       หน้าที่ของเม็ดเลือดขาวในร่างกายของมนุษย์ คือทำลายเชื้อโรค กล่าวคือเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายเม็ดเลือดขาวจะถูกผลิตเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำลายสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเม็ดเลือดขาวมีวิธีทำลายเชื้อโรคได้ 2 วิธีคือ
    1. ทำลายโดยการกินและย่อยสลายเชื้อโรค หรือที่เรียกว่า การสะกดกลืนกิน (Phagocytosis)
    2. ทำลายโดยการสร้างสารพวกโปรตีนที่มีคุณสมบัติต่อต้านสารแปลกปลอมในร่างกายและเชื้อโรค หรือที่เรียกว่า สร้าง ภูมิคุ้มกันโรค (Immunization)         เม็ดเลือดแดงกับเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงจะทำหน้าที่ขนย้ายออกชิเจน(อากาศหรือลมนั่นเอง)ไปส่งยังเชลล์ต่างๆทั่วร่างกาย โดยอาศัยหลอดเลือดเป็นเส้นทางสัญจรไปมา ภายในหลอดเลือดก็จะมีสิ่งที่จำเป็นต่อเชลล์มากมาย เช่น สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ ฮอร์โมน ไปให้เชลล์ต่างๆในร่างกาย โดยมีเม็ดเลือดขาวทหารเอก เป็นผู้ให้การคุ้มครองไปตลอดทาง เพราะนอกจากสารอาหารและสิ่งจำเป็นต่อร่างกายแล้วในเส้นทางของหลอดเลือดนี้ก็จะมีพวกเชื้อโรคและสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการผสมมาด้วย ต้องเป็นหน้าที่ของเชลล์เม็ดเลือดขาวที่จะตามกำจัดและขับไล่มันออกไปจากร่างกายเรา เหมือนตำรวจไล่จับผู้ร้าย


     ไลโคปิน เป็นสารที่ทำให้ “เม็ดเลือดขาว” แข็งแรงและเพิ่มจำนวนขึ้น มีผลการวิจัยทางการแพทย์ที่ระบุว่าเมื่ออายุมากขึ้นปริมาณของไลโคปีนในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้โอกาสในการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิดเช่น โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และ มะเร็งปากมดลูก 


   
     เนื่องจากไลโคปีนเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์(Antioxidant) ที่มีความแรงมาก และมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง กลไกการออกฤทธิ์ที่สำคัญคือเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระ (Free radical) ในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการทำลายสายดีเอ็นเอ อันก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ไลโคปีนจะช่วยลดการก่อกลายพันธุ์ ทำให้สามารถยับยั้งวงจรชีวิตของเซลล์มะเร็งในช่วงต้น (ระยะ G1) และลดการเกิดเนื้องอกได้
      ปัจจุบัน ไคโลปีน ที่เป็นสารสำคัญให้ เม็ดเลือดขาว มีอยู่ใน Magna Gac Capsule




     วิธีรับประทาน รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร และ ก่อนนอน 1 ชั่วโมง
      ปริมาณใน 1 แคปซูล : 1 แคปซูล ปริมาณ 500 มก. (มีส่วนผสมจาก ฟักข้าว100%)
      ผลิตด้วยกรรมวิธี Freeze Dryในห้องมืด เพื่อป้องกัน ไลโคพีน สูญเสียคุณค่าไป
      รับประทาน ฟักข้าวแคปซูล 1 แคปซูล เท่ากับรับประทาน มะเขือเทศ 3 กก.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://gaccapsule.blogspot.com
ปริมาณและราคา 1 แผง มี 10 แคปซูล
   ซื้อ 1 กล่อง มี 3 แผง          ราคา     390 บาท จากราคาเต็ม 420 บาท
   ซื้อ 3 กล่อง รวม9 แผง   
ราคา 1,100 บาท
   ซื้อ 6 กล่อง รวม 18 แผง  
ราคา 2,000 บาท ส่งไปรษณีย์ EMS ฟรี
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่

      คุณ วีระชัย ทองสา โทร. 084-6822645 ,085-0250423
                               อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Lycopene ไลโคปีน ในฟักข้าว ป้องกันการเกิดมะเร็ง

       ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและความสวยความงามในปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสนใจกับไลโคปีนมากขึ้นเพราะคุณสมบัติทำให้ผิวพรรณผ่องใสขาวอมชมพู แต่ไลโคปีนยังมีคุณประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึงอีกมากมาย
       ไลโคปีน (Lycopene) มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินคำว่า lycopersicum ซึ่งเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ บ่งบอกสปีชีส์ของมะเขือเทศ (Solanum lycopersicum) ไลโคปีนจัดเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ชนิดหนึ่งใน 600 ชนิด ละลายได้ดีในไขมันเช่นเดียวกับเบต้าแคโรทีน มีรงควัตถุ (pigment) สีแดง พบได้ทั่วไปในมะเขือเทศสุก ฝรั่ง (pink guava) แตงโม ส้ม มะละกอ แครอท ส้มโอสี
ชมพู ฟักข้าว (หรือ Gac furit มีสารไลโคปีน มากกว่ามะเขือเทศถึง 70 เท่า) และในผักผลไม้สีแดงต่างๆ (ยกเว้นสตรอเบอร์รี่และเชอร์รี่) แต่ไม่พบในสัตว์


     ไลโคปีนที่พบมี โครงสร้างทางเคมี 2 แบบคือ trans – configuration และแบบ cis-isomer โดยในธรรมชาติจะพบไลโคปีนแบบ trans – configuration แต่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบ cis-isomer ได้เมื่อสัมผัสกับความร้อนหรือและสว่าง โดยในกระแสเลือดของคนเราพบไลโคปีนแบบ cis-isomer อยู่ถึง 60% เลยทีเดียว
    
ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื้อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ

     จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed-lycopene) เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ เนื่องจากไลโคปีนที่มีโครงสร้างแบบ cis -isomer ถูกดูดซึมได้ดีกว่าแบบ trans – configuration และแบบ cis -isomer จะสามารถละลายและรวมตัวกับกรดน้ำดี (bile acid micells) ได้ดีกว่า แบบ trans – configuration ด้วย นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง 2.5 เท่า

    ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน
     มีผลการวิจัยทางการแพทย์ที่ระบุว่า
เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณของไลโคปีนในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้โอกาสในการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก


     เนื่องจากไลโคปีนเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ที่มีความแรงมาก และมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง กลไกการออกฤทธิ์ที่สำคัญคือเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระ (Free radical) ในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการทำลายสายดีเอ็นเอ อันก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

    ไลโคปีนจะช่วยลดการก่อกลายพันธุ์ ทำให้สามารถยับยั้งวงจรชีวิตของเซลล์มะเร็งในช่วงต้น (ระยะ G1) และลดการเกิดเนื้องอกได้ เมื่อเทียบกับสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดอื่นๆ ไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากมีโครงสร้างที่ต่อกันเป็นสายยาวกว่า

    ดังรายงานการศึกษาเปรียบเทียบผลในการต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง พบว่าไลโคปีนมีฤทธิ์ที่ดีกว่าเบต้าแคโรทีนและแอลฟาโทโคฟีรอลถึง 2 และ 10 เท่าตามลำดับ มีความเชื่อว่าไลโคปีนสามารถปรับระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน ตลอดจนเมตาบอลิซึมในร่างกายได้ นอกจากนี้การรับประทานไลโคปีนในปริมาณสูงยังช่วยยับยั้งเอนไซม์สำคัญที่ใช้ สังเคราะห์โคเลสเตอรอล และเร่งสลายโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือ LDL (Low density lipoprotein) ที่มีส่วนทำให้เกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดแข็งตัวได้อีกด้วย
      ร่างกายของคนเราควรได้รับปริมาณไลโคปีน อย่างน้อย
6.5 มก.ต่อวัน ซึ่งเทียบได้กับการทานมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบในอาหาร 10 ครั้งต่อสัปดาห์
       ยังไม่มีรายงานว่าการได้รับไลโคปีนมากเกินไปจะมีผลเสียต่อร่างกายอย่างไร
  ปัจจุบัน สารไลโคปีนมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ ฟักข้าวแคปซูล Magna Gac
        ปริมาณและราคา 1 แผง มี 10 แคปซูล
   
ซื้อ 1 กล่อง มี 3 แผง      ราคา 390 บาท  จากราคาเต็ม 420 บาท
    ซื้อ 3 กล่อง รวม 9 แผง  
ราคา 1,100 บาท
    ซื้อ 6 กล่อง รวม 18 แผง
ราคา 2,000 บาท ส่งไปรษณีย์ EMS ฟรี
     สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
     คุณ วีระชัย ทองสา โทร. 084-6822645 , 085-0250423
            อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com



วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เบต้า-แคโรทีน ในฟักข้าว มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

เบต้า-แคโรทีน (อังกฤษ: β-carotene) เป็นสารตั้งต้นของ วิตามินเอ (โปรวิตามินเอ) มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทั้งนี้ โดยปกติร่างกายของมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนเบต้า-แคโรทีนไปเป็นวิตามินเอได้ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย
        สำหรับขนาดรับประทานของวิตามินเอเพื่อรักษาสุขภาพโดยทั่วไปคือ 5,000 หน่วยสากล (IU) ซึ่งเทียบเท่ากับเบต้า-แคโรทีน 3 มิลลิกรัม และสำหรับปริมาณที่สมเหตุสมผลของเบต้า-แคโรทีนที่แนะนำให้รับประทานต่อวันเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงคือ 15 มิลลิกรัม ในขณะที่การรับประทานเพื่อหวังผลในรักษาจะต้องได้รับในปริมาณมากกว่านี้
        ประโยชน์ของบีตา-แคโรทีน
   1.    ดูแลรักษาผิวพรรณอันเป็นส่วนของร่างกายที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทราบว่าอนุมูลอิสระมีผลต่อเราแล้วหรือยัง เช่น ผิวเริ่มเหี่ยวย่น ไม่ผ่องใส

   2.    ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง อนุมูลอิสระมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งเนื้อร้าย การลดปริมาณอนุมูลอิสระเท่ากับลดความเสี่ยงของมะเร็ง ทั้งยังพบว่าเบต้า-แคโรทีนให้ผลกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายที่ชื่อ ที-เฮลเปอร์ให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็ง


   3.    บำรุงสุขภาพของดวงตา เบตา-แคโรทีนเมื่อโดนย่อยสลายที่ตับแล้วจะได้วิตามินเอ ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างสารโรดอปซินในดวงตาส่วนเรตินา ทำให้ตามีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้ และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย


  4.    ชะลอความแก่ เบต้า-แคโรทีนให้ผลในการลดความเสื่อมของเซลล์จากอนุมุลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระบวนการแก่

  แหล่งอาหาร
   เบต้า-แคโรทีนมีในพืชสีเหลืองและสีส้ม และ ผักที่มีสีเขียว เช่น  ลูกฟักข้าว แครอต ฟักทอง หน่อไม้ฝรั่งข้าวโพดอ่อน แตงโม  แคนตาลูป  มะละกอสุก  บร็อกโคลี่ มะระ ผักบุ้ง ต้นหอม  ผักคะน้า  ผักตำลึง

   ส่วนเหตุที่อาหารบางชนิดมีสีเขียว เป็นเพราะสีของเบต้า-แคโรทีนถูกสีเขียวของคลอโรฟิลล์บดบัง
    ผลข้างเคียง
    เบต้า-แคโรทีนนับเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญสำหรับสุขภาพของมนุษย์ อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามีรายงานของการขาดบีตา-แคโรทีนเลย แม้ว่าการวิจัยจำนวนมากจะระบุว่า การเสริมด้วยเบต้า-แคโรทีนใช้ในคนที่มีอาการขาดวิตามินเอ แต่ก็ยังคงไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่แสดงถึงอาการขาดบีตา-แคโรทีน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการแนะนำว่าเราควรรับประทานบีตา-แคโรทีนเข้าสู่ร่างกายโดยการบริโภคผักสดและผลไม้สด
    สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเป็นผลเสียต่อร่างกายจากเบตาแคโรทีน ขณะนี้ยังไม่พบ แม้จากการวิจัยพบว่าวิตามินเออาจเป็นพิษได้ถ้ารับประทานในปริมาณที่สูงกว่า 25,000 หน่วยสากล (IU) ต่อวัน แต่ไม่พบว่าบีตา-แคโรทีนมีความเป็นพิษ เมื่อรับประทานในปริมาณสูง ส่วนการมีปฏิกิริยากับสารอื่นไม่พบรายงานว่ามีปฏิกิริยาของบีตา-แคโรทีนกับยาสมุนไพร รวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใดๆ
     ปัจจุบัน สาร เบต้า แคโรทีน มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ ฟักข้าวแคปซูล Magna Gac
      ปริมาณและราคา 1 แผง มี 10 แคปซูล
      ซื้อ 1 กล่อง มี 3 แผง       ราคา    390 บาท จากราคาเต็ม 420 บาท

      ซื้อ 3 กล่อง รวม 9 แผง ราคา 1,100 บาท
      ซื้อ 6 กล่อง รวม 18 แผง ราคา 2,000 บาท ส่งไปรษณีย์ EMS ฟรี
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
คุณ วีระชัย ทองสา โทร. 084-6822645 , 085-0250423
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com